Bentley (เบนท์ลี่ย์) กำลังเริ่มการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมล้มเลิกกับเครื่องยนต์สันดาปภายในอันทรงพลังแน่นอน
เพราะพวกเขาได้ทำการเปิดตัวรถยนต์พละกำลังมากที่สุดในประวัติศาสตร์แบรนด์ด้วย Bentley Mulliner Batur เครื่อง W12 พละกำลัง 730 แรงม้า
แรงสุดที่เคยทำมา
Bentley Mulliner Batur นั้นจะเป็นรถยนต์แกรนด์ทัวริ่งคูเป้แบบ Luxury ที่มีการอัพเกรดเครื่องยนค์ 6.0 ลิตรเทอร์โบคู่ W12 แม้เครื่องจะค่อนข้างเก่าแล้ว แต่วิศวกรก็ได้มีการอัพเกรดเพิ่มเติมเข้าไป ทั้งระบบไอดีใหม่, อัพเกรดเทอร์โบ, อินเตอร์คูลเลอร์ใหญ่ขึ้น และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ พร้อมทั้งเปลี่ยนท่อเป็นไทเทเนี่ยมเต็มใบ
ทั้งหมดนี้ช่วยให้เครื่องยนต์รีดกำลังได้ 730 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร มากกว่า Continental GT Speed อยู่ 80 แรงม้า และ 100 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ได้ใน 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 335 กม./ชม
อ่านเพิ่มเติม รถไฟฟ้าแรกของ Bentley อาจมีพละกำลังมากถึง 1,400 แรงม้า
แม้ทางเบนท์ลีย์จะไม่ได้เปิดเผยข้อมูลสเปคของ Batur ออกมามากกว่านี้ แต่ตัวรถก็ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดดูอัลคลัช, ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ, ทอร์คเวคเตอริ่ง และ ดิฟหลังไฟฟ้า
ช่วงล่างถุงลม Adaptive และระบบควบคุมป้องกันการโคลงอีเล็กทรอนิกที่รองรับแรงบิดได้ถึง 1,300 นิวตันเมต มาพร้อมกับเบรก Carbon-Silicon-Carbide (CSiC) ที่มีคาลิปเปอร์เบรก 10 สูบและดิสก์เบรก 440 มม. ส่วนด้านหลังเป็นคาลิปเปอร์ 4 สูบ ดิสก์ขนาด 410 มม.
อนาคตของดีไซน์ Bentley
นอกจากจะมาเป็นรถยนต์ที่แรงสุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์แล้ว Batur จะมีการออกแบบที่โมเดิร์นขึ้น ที่จะเป็นแนวทางให้กับทิศทาดีไซน์ของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
ทางค่ายไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดมากมาย แต่กล่าวว่าตัวรถได้มีการใส่กระจังหน้าใหม่ ตำแหน่งต่ำลงมาและตั้งตรงมากขึ้น และยังมีไฟหน้าที่ดูเล็กลงแทนที่ทรงกลม ประกอบด้วย LED ย่อย 3 ดวง และเส้นไฟ DRL แบบหางตา น่าจะมีการใช้ในรุ่นใหม่ ๆ มากขึ้นเช่นกัน
ไฟท้ายจะคล้ายกับไฟหน้า แต่ปรับให้เล็กลง และด้านหลังออกแบบให้โค้งมนต่างจาก Bentley ทุกรุ่น ซ่อนสปอยเลอร์แบบพับเก็บได้ ทำงานตามความเร็ว
ล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว สีดำ Black Crystal ปัดเงาผิวหน้าทรงใบพัดด้วยสีสว่าง
ภายในคล้ายเดิม
การออกแบบภายในนั้น จะยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น Balacar ในปี 2021 แต่เจ้าของรถก็ยังสามารถเลือกคัสตอมได้ตามต้องการทั้งสีและวัสดุ ที่ผลิตด้วยวิธีรีไซเคิล หลีกเลี่ยงการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ หันไปใช้ Natural Fiber ที่ทาง Bentley เคลมว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าแทน หรือใครอยากได้ลายไม้เดิม ๆ ก็ยังทำได้
ใช้ทองคำ 18K พร้อมกับสลักชื่อรุ่นที่วงแหวน Drive mode รอบปุ่มกด Start Stop
อ่านเพิ่มเติม Bentley ได้การรับรอง “พลาสติกสู่ธรรมชาติเป็นศูนย์”
จำนวนจำกัด
ตัวรถจะมีจำนวนจำกัดเพียง 18 คัน และแน่นอนว่าถูกจับจองไปหมดแล้ว แม้จะมีราคาค่าตัว 1.65 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 70 ล้านบาท
แต่ละคันจะได้รับการออกแบบร่วมกับผู้ซื้อรถอย่างใกล้ชิดเพื่อเลือกสีและลายที่ต้องการได้หลากหลายแบบ
หลังจากทำการคัสตอมเสร็จแล้วก็จะทำการผลิตขึ้นด้วยมือจาก Mulliner เป็นเวลาหลายเดือน หากทุกสิ่งเป็นไปตามแผน จะสามารถส่งรถได้ช่วงกลางปี 2023